Art Of Tea Lovers
ศิลปะของคนรักชา
การเรียกสมุนไพรต่างๆ
ที่นำมาชงกับน้ำร้อนเพื่อดื่มว่า “ชา”
เราเรียกตามรูปแบบการนำมาชงกับน้ำร้อนเหมือนการชงใบชา
วัฒนธรรมการดื่มชาของชาวตะวันตกได้พัฒนาจากการชงใบชาเป็นชาสำเร็จรูปในแบบซองต่างๆ
การผสมและคิดค้นสูตรต่างๆ ทำให้มีการนำสมุนไพรและผลไม้หลายชนิดมาแต่งกลิ่นรส
จึงมีชนิดที่มีชาเพียงอย่างเดียว และมีชาผสมกับสมุนไพรหรือผลไม้ต่างๆ การรับเอารูปแบบการดื่มชาตะวันตกของไทยนั้น ได้เรียกชื่อแปลตามภาษาอังกฤษ เพราะ tea
bag หรือถุงชาใช้สำหรับใส่ชา
ภายหลังนำมาใส่พวกสมุนไพร เราก็เรียกว่าชาด้วย จึงกลายเป็นความหมายที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน
แต่ที่จริงแล้วสมุนไพรที่นำมาชงโดยไม่ได้เป็นการผสมเพื่อปรุงชานั้น ไทยเราเรียกว่า
“ยาชง” แต่ฟังแล้วไม่ทันสมัย ไม่ชวนดื่ม
บ้านเรากับทางตะวันตก
ชาสมุนไพรจะต่างตรงที่ชนิดของสมุนไพรที่นำมาทำ ที่เป็นผัก เช่น สะระแหน่ ตะไคร้
ฯลฯ ชาผลไม้ เช่น มะขาม ฯลฯ ชาดอกไม้ เช่น
ดอกคำฝอย ดอกมะลิ ฯลฯ ส่วนตะวันตกมักเป็นดอกไม้ เช่น คาร์โมไมล์ ลาเวนเดอร์ กุหลาบ
ฯลฯ ชาผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล สตอเบอร์รี่ ฯลฯ
ตัวอย่างสมุนไพร และมีสรรพคุณอะไรบ้าง
ชาใบหม่อน : ทำให้ชุ่มคอ แก้ไข้ ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต
บำรุงสายตา
ชากระเจี๊ยบ : รักษาอาการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ และโรคนิ่ว
ชาดอกคำฝอย : ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงโลหิต และบำรุงหัวใจ
ชาใบเตย : บำรุงหัวใจ ลดน้าตาลในเลือด
ชาตะไคร้ : ขับลมในลำไส้ และช่วยให้เจริญอาหาร
ชามะขาม : เป็นยาระบาย ลดความร้อนในร่างกาย
ชารากชะเอม : บรรเทาอาการไอ และระคายคอ
ประโยชน์ของเครื่องชา
ชาจัดว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
หรือเรียกว่า Health drink ในชามีสารกลุ่มโพลีฟีนอล
ซึ่งมีคุณสมบัติต้านสารอนุมูลอิสสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์ ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ
เช่น มะเร็ง
เมื่อดื่มชาเข้าไป
จะทำให้มีความรู้สึกสดชื่น เนื่องจากสารโพลีฟีนอล คาร์โบไฮเดรต และกรดอะมิโน
ที่มีในชาเกิดปฏิกิริยากับน้ำลายจะช่วยเร่าขับของเสียออกจากร่างกาย
กระตุ้นให้ระบบประสาทและร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยขยายหลอดเลือด
ป้องกันโรคหัวใจตีบ และช่วยในการย่อยอาหาร
ใบชามีฟลูออไรด์ที่เป็นสารป้องกันภาวะไทรอยด์ผิดปกติ
การดื่มน้ำชาทุกวันช่วยป้องกันฟันผุ และช่วยระงับกลิ่นปาก
ลดอาการอักเสบจากการเป็นแผลในปากได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น